EOS เป็นสกุลเงินดิจิทัลดั้งเดิมของบล็อคเชน EOS.IO โดยที่โทเค็น EOS มีความจำเป็นสำหรับการเข้าถึงเครือข่าย EOS ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ปฏิบัติการสำหรับ dApps และสิ่งที่ทำให้ EOS นั้นเป็นที่น่าประทับใจคือ ขนาดขององค์กรที่กระจายอำนาจและศักยภาพในการปรับขยายนั่นเอง
เครือข่าย EOS ถูกสร้างขึ้นในเดือนมิถุนายน ปี 2018 โดยบริษัท Block.one ซึ่งก่อตั้งโดย Dan Larimer และ Brendan Bloomer โดยเหรียญ EOS นั้นได้ถูกนำเสนอต่อสาธารณชนหนึ่งปีก่อนหน้าในเดือนมิถุนายน ปี 2017
ปัจจุบัน EOS อยู่ในอันดับที่ 9 ในแง่ของมูลค่าตลาดเมื่อเปรียบเทียบกับสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ ในขณะที่เขียนบทความนี้ในเดือนมิถุนายน ปี 2020 แต่เมื่อสิ้นเดือนเมษายน ปี 2018 เหรียญ EOS นั้นมีราคาสูงสุดอยู่ที่ 22.89 ดอลลาร์ เทียบกับปัจจุบันในขณะที่เขียน เหรียญมีราคาอยู่ที่ 2.67 ดอลลาร์ เท่านั้น
Larimer ผู้สร้างบล็อกเชน เป็นที่รู้จักกันดีในการช่วยเหลือ Bitshares และ Steemit ก่อนเริ่มโครงการ EOS นอกจากนี้ เขายังช่วยพัฒนาแนวคิดเรื่อง Proof of Stake ที่ได้รับมอบอำนาจอีกด้วย
EOS ถูกสร้างขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการพัฒนาแพลตฟอร์มการกระจายอำนาจสำหรับการสร้าง dApps ในระดับที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ไม่เพียงเท่านั้น EOS ยังหวังที่จะขยายขนาดไปถึงจุดที่จะไม่มีคู่แข่ง
EOS นั้นคล้ายกับ Ethereum แต่อย่างไรก็ตาม Larimer และ Bloomer เชื่อว่ายังอีกมีหลายแง่มุมที่พวกเขาต้องการปรับปรุงและนั้นเป็นผลผลักดันให้เกิดการคิดค้น EOS ขึ้นมา โดยเป้าหมายที่ระบุไว้คือ EOS สามารถทำธุรกรรมได้หลายล้านรายการต่อวินาที โดยไม่มีค่าธรรมเนียม ซึ่งความสามารถนี้เป็นสิ่งที่ Ethereum ไม่มีให้ นอกจากนั้น EOS พยายามบรรลุเป้าหมายนี้ผ่านระบบ Proof of Stake (DPoS) ที่ได้รับมอบอำนาจเพื่ออนุมัติธุรกรรม
dApps ที่หลากหลายบนเครือข่าย EOS นั้นเป็นอะไรที่น่าทึ่งมาก เนื่องจากพวกเขามีตั้งแต่เกมไปจนถึง mindfulness dApps ไปจนถึง dApps บางตัวที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อช่วยให้การดูแลสุขภาพที่เป็นสากลผ่านเทคโนโลยีบล็อกเชน
EOS ทำงานบนฉันทามติของ DPoS โดยมีตัวแทนจำนวน 21 คนในแต่ละวันที่ได้รับเลือกให้เป็นผู้ตรวจสอบความถูกต้องสำหรับธุรกรรม โดยตัวแทนทั้ง 21 คนเหล่านี้ได้รับการโหวตจากชุมชน มันมีข้อดีหลายประการ ซึ่งประการแรกคือ ผู้แทนต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของพวกเขา โดยที่ชุมชนสามารถลงคะแนนโหวดให้ผู้แทนออกไปได้ หากชุมชนไม่พอใจกับผลงานของผู้แทน ประการที่สองคือ การมีกลุ่มผู้ตรวจสอบความถูกต้องจำนวนน้อย จะใช้เวลาเพียงเล็กน้อยในการตรวจสอบความถูกต้องของธุรกรรม ซึ่งปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจากการมีผู้มีสิทธิเลือกตั้งกลุ่มเล็กๆ จะถูกปฏิเสธโดยให้มีการเลือกตั้งใหม่ในแต่ละวัน
อุปทานของ EOS มีอัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ 5% โดยที่ 1% จะส่งไปให้ผู้ตรวจสอบบล็อกตอนสิ้นปี มันจึงเป็นสิ่งจูงใจสำหรับผู้ตรวจสอบบล็อกในความพยายามของพวกเขาตลอดทั้งปี ซึ่งทำให้ช่วยรักษาประสิทธิภาพการทำงานของผู้ตรวจสอบบล็อกเอาไว้
ด้วยโปรโตคอล proof of stake ที่ได้รับมอบอำนาจ ศักยภาพในการขยายขนาดมีมากมาย ไม่สำคัญว่าชุมชน EOS จะใหญ่แค่ไหน จำนวนผู้ที่ได้รับมอบหมายรายวันเพียงเล็กน้อยสำหรับการตรวจสอบบล็อก จะช่วยให้การทำธุรกรรมเป็นไปอย่างรวดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ อีกทั้งการจ่ายเงินให้ผู้ตรวจสอบบล็อกด้วยส่วนหนึ่งของ EOS ทำให้ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม
โทเค็น EOS สามารถใช้เพื่อแลกเปลี่ยนกับสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ หรือใช้จ่ายตามร้านค้าได้ ด้วยเหตุนี้จึงถือได้ว่า EOS เป็น ‘เงินจริง’ การใช้งานที่แท้จริงของพวกเขาอยู่ในเครือข่าย EOS หากยิ่งมีโทเค็น EOS มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งอ้างสิทธิ์ในการเดิมพันบนเครือข่ายได้มากขึ้นเท่านั้น โทเค็นยังสามารถใช้เพื่อโต้ตอบกับ dApps ได้อีกด้วย
การทำธุรกรรม EOS นั้นไม่มีค่าธรรมเนียมในเครือข่าย อย่างไรก็ตามอย่าลืมว่าจะมีค่าธรรมเนียมเกิดขึ้นหากคุณซื้อโทเค็นผ่านบุคคลที่สาม นอกจากนี้คุณสามารถใช้ eToro ที่เป็นเครือข่ายการลงทุนทางสังคมที่ใหญ่ที่สุดในโลก หรือการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลอื่นเพื่อซื้อโทเค็น EOS ได้เช่นกัน โดยการกระจายการซื้อ EOS บน eToro นั้นจะมีค่าธรรมเนียมอยู่ที่ 2.9%
ผู้ถือโทเค็น EOS นั้นมีการเปิดเผยตัวตนในเครือข่าย ดังนั้นจึงไม่สามารถใช้เพื่อวัตถุประสงค์ที่ตั้งใจว่าจะไม่ระบุตัวตนได้ แม้ว่าเพียงแค่เก็บไว้ในกระเป๋าเงินในการแลกเปลี่ยนก็ตาม ซึ่งการไม่เปิดเผยตัวตนนั้นไม่สามารถทำได้จริงๆ เนื่องจากการแลกเปลี่ยนออนไลน์ที่สำคัญใดๆ จะต้องมีกระบวนการตรวจสอบ ID บางรูปแบบเพื่อใช้บริการและซื้อโทเค็นตั้งแต่แรกเสมอ
ในทางทฤษฎี ระบบ DPOS ควรทำให้ EOS ค่อนข้างปลอดภัย ระบบจะช่วยให้อันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการโจมตี Ethereum DAO ถูกปฏิเสธ เนื่องจากผู้ตรวจสอบสามารถหยุดแอปได้ อย่างไรก็ตาม คนอื่นๆ อาจโต้แย้งว่าในการควบคุมเครือข่าย EOS นั้นคุณจะต้องควบคุมเครื่องมือตรวจสอบอย่างน้อย 11 จาก 21 รายการเท่านั้น แม้ว่าเหตุการณ์นี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ก็ตาม
อย่างไรก็ตาม ในช่วงปลายปี 2019 มีการโจมตีสองครั้งเกิดขึ้นในเครือข่าย EOS ครั้งแรกเป็นการต่อต้าน dApp การพนันที่เรียกว่า EOS.win ซึ่งเป็นการโจมตีที่เกี่ยวข้องกับช่องโหว่ในรหัสของบล็อคเชน โดยที่อนุญาตให้แฮ็กเกอร์ทำการสร้างธุรกรรมที่รอการตัดบัญชีเป็นจำนวนมาก ซึ่งทำให้ผู้ผลิตบล็อกไม่สามารถอนุมัติธุรกรรมที่ถูกต้องได้
การโจมตีครั้งที่สองมาจากบริษัทที่มีชื่อว่า EIDOS ซึ่งได้ออกอากาศโปรแกรมบนบล็อกเชนที่อนุญาตให้ผู้ใช้สร้างโทเค็น EIDOS โดยสิ่งที่ผู้ใช้ทั้งหมดต้องทำคือ ทำการส่งธุรกรรมของ EOS บนเครือข่าย ซึ่งจะมีการสร้างโทเค็น EIDOS ขึ้น มันผส่งลทำให้เครือข่ายช้าลงอย่างมากด้วยธุรกรรมใหม่ทั้งหมด ‘การโจมตี’ ครั้งที่สองนี้ดูเหมือนจะเป็นความพยายามที่จะดึงความสนใจไปที่ข้อจำกัดของเครือข่าย EOS ที่ถูกโจมตีถึงสองครั้งด้วยกัน
EOS ไม่ได้ถูกทำการขุด เนื่องจากทุกปีอุปทานจะขยายตัว 5% ซึ่ง 1% ของอุปทานดังกล่าวถูกใช้ไปเพื่อชดเชยผู้ผลิตบล็อกจากปีที่ผ่านมา ดังนั้น หากใครเป็นผู้ผลิตบล็อกก็เป็นไปได้ที่จะได้รับ EOS ในรูปแบบที่คล้ายกับการขุด
โทเค็น EOS สามารถจัดเก็บไว้ในกระเป๋าเงินดิจิทัลส่วนใหญ่ได้ทั้งแบบกระเป๋าเงิน ‘ร้อน’ ออนไลน์ไปจนถึงกระเป๋าฮาร์ดแวร์ โดยที่กระเป๋าเงินประเภทต่างๆ มอบสิทธิพิเศษที่แตกต่างกันไป ตั้งแต่การรักษาความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นไปจนถึงความสามารถในการพกพาที่ง่ายขึ้น ตัวอย่างกระเป๋าเงินประเภททั่วไปมีต่อดังต่อไป
นอกจากนี้ยังมีกระเป๋าเงินเฉพาะของ EOS ที่สร้างโดยชุมชนที่ทำให้ง่ายต่อการจัดเก็บโทเค็นและโหวตให้ผู้ผลิตบล็อกในเครือข่าย ตัวอย่างเช่น:
นี่เป็นคำถามส่วนตัวที่มีเพียงคุณเท่านั้นที่จะสามารถตอบได้หลังจากที่คุณได้ทำการศึกษาวิจัยอย่างเพียงพอแล้ว การซื้อเหรียญ EOS ถือเป็นข้อกำหนดเบื้องต้นสำหรับใครก็ตามที่สนใจที่จะพัฒนา dApps แทนที่จะเป็นคำถามที่ว่าคุ้มค่าหรือไม่
จากการเก็งกำไรราคา นับตั้งแต่จุดสูงสุดในเดือนเมษายน ปี 2018 ราคาของ EOS ก็ค่อยๆ ลดลงและยังคงอยู่ที่ระดับต่ำ
ควรสังเกตว่าราคาของสกุลเงินดิจิทัลมีความผันผวนและอาจมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในแต่ละวัน ดังนั้น คุณควรทำการศึกษาวิจัยอย่างเพียงพอก่อนทำการลงทุนเสมอ และอย่าลงทุนมากเกินกว่าที่จะยอมขาดทุนได้