ราคาโทเค็น WAVES เพิ่มขึ้น 100% ใน 7 วัน: นี่คือเหตุผลว่าทำไม?

ราคาโทเค็น WAVES เพิ่มขึ้น 100% ใน 7 วัน: นี่คือเหตุผลว่าทำไม?

By Charles Thuo - นาทีอ่าน

โทเค็น WAVES มีประสิทธิภาพเหนือกว่าตลาด crypto ในวงกว้างด้วยอัตรากำไรที่กว้าง มูลค่าของมันเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวในสัปดาห์ที่ผ่านมา ปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นมากกว่า 200% ในช่วงเจ็ดวันที่ผ่านมา

ในขณะที่เขียน WAVES ซื้อขายที่ $18.82 เพิ่มขึ้น 2.5% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา

แนวโน้มขาขึ้นของ WAVES ได้ให้ความหวังแก่ตลาด crypto โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องจากโทเค็นหลักส่วนใหญ่รวมถึง Bitcoin นั้นร่วงลงเนื่องจากปัญหารัสเซียและยูเครน

ตอนนี้เรามาดูแบบเจาะลึกกันและดูว่าราคาที่เพิ่มขึ้นนั้นเกี่ยวกับอะไร

ทำไมราคาของโทเค็น WAVES ถึงเพิ่มขึ้น?

ก่อนที่เราจะพูดถึงการเคลื่อนไหวของราคา อันดับแรกต้องอธิบายว่าโทเค็น WAVES คืออะไร

โทเค็น WAVES เป็นสกุลเงินดิจิทัลดั้งเดิมของเครือข่ายบล็อกเชน WAVES ซึ่งเป็นบล็อกเชนโอเพนซอร์สที่อนุญาตให้ใช้ Smart Contracts และแอปกระจายอำนาจ (DApps)

ปัจจัยหลักสามประการสามารถนำมาประกอบกับแนวโน้มขาขึ้นในปัจจุบันของราคาของ WAVES นี่คือการประกาศของ Binance ว่าจะเริ่มยอมรับ WAVES, การอัปเดต WAVES 2.0 และ metaverse ของ WAVES ที่กำลังจะมีขึ้นในปลายเดือนนี้

  • Binance ประกาศ

Binance ประกาศว่าจะเริ่มรับโทเค็น WAVES เพื่อเป็นหลักประกันสำหรับแพลตฟอร์มเงินกู้ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคา WAVES พุ่งขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ ในระหว่างการประกาศ Binance ยังได้อนุมัติ THETA, SLP, MATIC เป็นสินทรัพย์หลักประกัน

  • อัพเดต WAVES 2.0

เมื่อเร็วๆ นี้ WAVES ได้ประกาศว่าพวกเขาจะอัปเดต WAVES 2.0 เพื่อเพิ่มความสามารถในการทำงานร่วมกันกับเครือข่ายอื่นๆ ผ่านการสนับสนุน Ethereum Virtual Machine (EVM) การอัปเดตนี้จะทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงสินทรัพย์ดิจิทัลบนเครือข่ายกระแสหลักหลายแห่งได้

WAVES ยังได้ประกาศการรวมเข้ากับฮับ Multi-chain Allbridge เพื่อเปิดใช้งานการเชื่อมต่อ WAVES กับเครือข่าย EVM และที่ไม่ใช่ EVM หลายเครือข่าย

หลังจากการบูรณาการ Allbridge กล่าวว่า:

''เป้าหมายของเราคือการสร้างสะพานเชื่อมระหว่าง Waves และ EVM ที่รองรับ เช่นเดียวกับเชนที่ไม่ใช่ EVM เช่น NEAR Protocol, Solana และ Terra''

นอกจากนี้ โครงการนี้ยังได้จัดตั้ง WAVES Labs ซึ่งเป็นบริษัทในไมอามี่ เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์สำหรับตลาดสหรัฐฯ รวมทั้งเปิดตัวกองทุน 150 ล้านดอลลาร์สำหรับการนำไปใช้ในสหรัฐอเมริกา